รูปแบบที่พักในประเทศญี่ปุ่น

เวลาเราจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะจองห้องพักเราต้องทราบถึงสิ่งเหล่านี้เพื่อจะได้เข้าใจตรงกันกับเจ้าของที่พักในประเทศญี่ปุ่นนะครับ

1. เรียวกัง (Ryokan)
   

   เรียวกัง (Ryokan) เป็นรูปแบบของที่พักแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่มีการใช้บริการอย่างแพร่หลายมาเป็นเวลายาวนาน ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม เข้ากับความสะดวกสบาย รวมถึงการแต่งกาย และลักษณะการให้บริการของเจ้าหน้าที่ที่เป็นเอกลักษณ์
   โดยห้องพักจะเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเสื่อทาทามิ และประตูเลื่อนกระดาษโครงไม้ ลูกค้าที่เข้าพักในเรียวกัง (Ryokan) จะได้นอนบนฟูกฟุตง ส่วนมื้ออาหารจะเป็นแบบไคเซคิ เรียวริ (Kaiseki) หรือชุดอาหารเย็นที่ยกมาเสิร์ฟตามลำดับธรรมเนียมญี่ปุ่น โดยจะพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาล และการจัดจานนำเสนอ เน้นให้ชิมรสชาติหลายอย่างนั่นเอง
   นอกจากนี้เรียวกังบางแห่งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับองค์ประกอบของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เช่นสวนสไตล์ญี่ปุ่น บ่ออนเซ็น (Onsen) เป็นต้น

   

2. ฟาร์มสเตย์ (Farm Stay)
   

   ที่พักรูปแบบท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่จะทำให้ผู้เข้าพักได้รับประสบการณ์ สัมผัสวิถีชีวิตธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซึ่งการเข้าพักแบบฟาร์มสเตย์ (Farm Stay)นั้น เจ้าของที่พัก มักจะเปิดบ้านพักของตัวเองในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิตแบบการเกษตรผ่านกิจกรรมปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ โดยใช้พื้นที่ของตนเองในการถ่ายทอดการเรียนรู้ และวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นอีกด้วย

   

3. โรงแรมสไตล์ตะวันตก (Western-style Hotels)
   

   โรงแรมที่มีความหรูหรา และมีขนาดห้องพักที่ใหญ่กว่าโรงแรมธุรกิจ ส่วนใหญ่จะเป็นเครือโรงแรมที่มีชื่อเสียง และมีสาขาในหลายประเทศทั่วโลก ทำเลของโรงแรมมักตั้งอยู่ในตัวเมืองใหญ่ ใกล้กับสถานีรถไฟหลัก ๆ เดินทางสะดวก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสบาย
   ระดับมาตรฐานของบริการ จะเป็นมาตรฐานสากลระดับสูงในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านห้องพัก ห้องอาหาร การบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เครื่องทำความอุ่น ทีวี เครื่องปรับอากาศ และสระว่ายน้ำ พร้อมด้วยอาจมีบริการเสริมในส่วนของล่าม ศูนย์ช้อปปิ้ง และศูนย์สุขภาพ อีกทั้งพนักงานของโรงแรมเหล่านี้จะพูดภาษาอังกฤษได้เช่นกัน

   

4. โรงแรมแบบธุรกิจ (Business Hotels)
   

   โรงแรมประเภทนี้โดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยองค์กรทางธุรกิจ เพื่อรองรับลูกค้าที่เดินทางเข้ามาพักชั่วคราวในการติดต่อธุรกิจ หรือนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางบ่อย ทำเลส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
   ห้องพักมักจะมีขนาดเล็ก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกน้อยกว่าโรงแรมที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า แต่ความสะดวก และราคาที่ประหยัดกว่าโรงแรมสไตล์ตะวันตก ทำให้โรงแรมประเภทนี้เป็นที่สนใจสำหรับลูกค้ากลุ่มอื่นด้วยเช่นกัน
   

5. มินชูกุ (Minshuku)
   

   ที่พักที่มีต้นกำเนิดมาจากการที่ชาวนา หรือชาวประมงนำบ้านของตัวเองมาดัดแปลงให้เช่าพัก และบริการธุรกิจแบบครอบครัว มักพบได้บ่อยตามรีสอร์ท และจุดท่องเที่ยวพักผ่อน และมีราคาอยู่ในระดับปานกลาง ทำให้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระหว่างท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น
   ที่พักแบบมินชุคุ (Minshuku) จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดเตรียมไว้ให้เพียงไม่กี่อย่าง และแขกที่เข้าพักอาจจะต้องช่วยเหลือตนเอง เช่นการพับที่นอนในตอนเช้า และเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าเป็นต้น

   

6. บ้านพักตากอากาศ (Pension)
   

   ที่พักแบบบ้านพักตากอากาศ (Pension) จะอยู่ตรงกลางระหว่างบรรยากาศการเข้าพักที่มินชุคุ (Minshuku) กับความสะดวกสบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันของโรงแรม
   มักมีทำเลอยู่บริเวณสถานที่ยอดนิยมทางด้านกีฬา เช่น ใกล้กับสกีรีสอร์ท แหล่งอนเซ็น หรือในภูเขา ด้วยลักษณะการบริหารแบบเปิดกว้าง แขกผู้เข้าพักจึงสามารถสื่อสารกับเจ้าของ พนักงาน และแขกคนอื่น ๆ นับเป็นตัวเลือกที่ดีสําหรับผู้ที่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

   

7. หอพักเยาวชน (Youth Hostels) และหอพักทั่วไป (Hostel)
   

   ที่พักราคาย่อมเยา และสะอาดในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร เป็นสถานที่ที่เยาวชน และผู้คนทุกวัยจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้มาพักร่วมกันเพื่อสนทนา และแลกเปลี่ยนข้อมูลการเดินทาง บางแห่งให้บริการโปรแกรมสัมผัสประสบการณ์พิเศษในแต่ละท้องถิ่นนั้น ๆ ด้วย
   โดยมาตรฐานของหอพักจะเป็นห้องที่มี 4-6 เตียงเดี่ยวแบบแยกชายหญิง หรือห้องพักสำหรับครอบครัว และบางแห่งจะมีห้องเตียงเดี่ยว และห้องเตียงคู่ รวมถึงมีห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นด้วย นับเป็นที่พักที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น

   

8. เกสต์เฮ้าส์ (Guest house)
   

   เป็นที่พักที่จัดอยู่ในประเภทที่พักขนาดเล็ก ที่เจ้าของบ้านนำมาปรับปรุง ดัดแปลง หรือสร้างขึ้นใหม่ เพื่อให้บริการเป็นที่พักแรมแก่นักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่มักจะราคาไม่สูง มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็น และมีจำนวนห้องไม่มากนัก เน้นการบริการแบบเป็นกันเอง มักตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
   

9. ชุคุโบะ (Shukubo)
   

   เป็นการพักแรมในวัด เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้แสวงบุญที่เดินทาง ไปจนถึงผู้ที่ต้องการสัมผัสกับความเรียบง่าย และวิถีชีวิตของพระในพระพุทธศาสนา มักตั้งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนยอดเยี่ยมที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติ และบ่อน้ำพุร้อน เป็นต้น ซึ่งแขกสามารถเข้าพักได้อย่างสะดวกสบายในราคาเป็นมิตร มีห้องพักแบบส่วนตัวที่จะถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายตามสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม และเปิดโอกาสให้เข้าร่วมกิจกรรม อย่างการสวดมนต์ หรือการฝึกสมาธิแบบซาเซ็นด้วย